อาหารไม่ย่อยบ่อย ๆ อันตรายไหม? สาเหตุ วิธีบรรเทา และวิธีป้องกัน
อาการอาหารไม่ย่อย คือสภาวะที่ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน และรู้สึกอิ่มเร็วผิดปกติ อาการมักจะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว อาจดีขึ้นและหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป แต่หากเป็นเรื้อรังอาจก่อให้เกิดโรคและการเจ็บป่วยในระบบทางเดินอาหารที่รุนแรงได้
อาหารไม่ย่อย ถ้าเป็นบ่อย ๆ จะอันตรายไหม?
ถ้านานๆ ครั้งก็ไม่ต้องกังวลมากครับ แต่ถ้าเริ่มมีอาการบ่อยขึ้นจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพอื่นๆได้นะครับ อย่างเช่น
- กรดไหลย้อน
- แผลในกระเพาะอาหาร
- ขาดสารอาหาร เพราะร่างกายดูดซึมไม่ดี
- หรือแม้แต่มะเร็งในระบบทางเดินอาหาร (ในรายที่มีความเสี่ยง)
สาเหตุของอาหารไม่ย่อย
- พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การทานอาหารเร็วเกินไป ทานมากเกินไป หรือทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือรสจัด เป็นสาเหตุหลักของอาหารไม่ย่อย
- ความเครียดจากการทำงาน นับเป็นปัญหาใหญ่ของคนวัยทำงาน
- ที่มีความรีบเร่งอยู่ตลอดเวลา จนทำให้รับประทานอาหารไม่เป็นเวลาหรือต้องรีบรับประทานอาหาร กลายเป็นพฤติกรรมสะสม ส่งผลให้มีอาการแน่นท้อง หรือ ท้องอืด
- นอกจากนี้ ความเครียดจากการปรับตัวกับสังคมใหม่ แรงกดดันต่างๆในขีวิตประจำวัน ก็ล้วนส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารเช่นกัน
- ยาและสารเสพติด การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ สูบบุหรี่ หรือทานยาแก้ปวดบ่อยๆ อาจรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร และทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องได้ง่ายขึ้น
- โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไทรอยด์ กรดไหลย้อน หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย H. pylori อาจทำให้เกิดอาหารไม่ย่อยแบบเรื้อรัง
- ปัจจัยอื่น ๆ อายุที่เพิ่มขึ้น น้ำหนักตัวมาก การนอนหลับไม่เพียงพอ และการเคลื่อนไหวน้อย โดยเฉพาะผู้ที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ก็มีผลต่อระบบย่อยอาหารได้เช่นกันครับ
วิธีป้องกันอาหารไม่ย่อย
วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อาจเป็นเรื่องยากถ้าเราเป็นคนไม่ค่อยมีเวลา งั้นลองเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น คือ "การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร" ดูก่อนนะครับ หากสามารถปรับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดโอกาสเกิดอาการอาหารไม่ย่อยในระยะยาวได้
- ไม่รับประทานทีละมากๆ เคี้ยวอาหารให้ละเอียด และรับประทานให้ตรงเวลา
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด มันจัด และอาหารย่อยยาก
- สิ่งสำคัญคือการเคลื่อนไหวร่างกาย หรือการออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เพียงแต่ช่วยระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น แต่ยังช่วยลดความเครียดที่เป็นสาเหตุร่วมของอาการอาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย
- หลีกเลี่ยง การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้ยาแก้ปวดหรือยาบางชนิดโดยไม่จำเป็น
ตรวจให้แน่ใจ ด้วยการส่องกล้องกระเพาะอาหาร
หากคุณมีอาการอาหารไม่ย่อยเป็นประจำ อาการไม่ดีขึ้นหลังจากทานยาหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แพทย์จะแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมด้วยการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน (Esophagogastroduodenoscopy) เพื่อหาความผิดปกติภายในหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น
โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือ คนที่มีสัญญาณเตือน เช่น น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ อาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายเป็นเลือด กลืนอาหารลำบาก หรือมีประวัติมะเร็งในครอบครัว การส่องกล้องสามารถช่วยวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นแผลในกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน ไปจนถึงมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร
การส่องกล้องกระเพาะอาหารเป็นการตรวจที่ไม่น่ากลัวเลย เพราะ
- การตรวจที่ปลอดภัย
- ใช้เวลาไม่นาน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 20 นาที
- มักทำร่วมกับการให้ยานอนหลับอ่อน ๆ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
สำหรับใครที่เริ่มรู้สึกว่ามีอาการแน่นท้องเกิดบ่อย หรืออยากตรวจเช็กระบบทางเดินอาหารและตับ สามารถเข้ามาปรึกษาที่คลินิกได้ พร้อมแพทย์คลินิกพร้อมดูแลคุณทุกวัน
- จันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.00 - 19.30 น.
- เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 08.30 - 12.00 น.
ที่อยู่ : 54/49 หมู่ที่ 2 ถ.ศรีวิชัย 39 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000 (ตรงข้ามตลาดศรีราชา)
โทร: 069-645-5565 หรือ 091-461-9130