เช็ควิธีรักษาโรคตับที่ได้ผล! โรคตับรักษาให้หายขาดได้หรือไม่?

ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก ทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น กำจัดสารพิษ สร้างโปรตีน ควบคุมไขมัน และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี หากตับทำงานได้ลดลงจะกระทบต่อร่างกายในหลายด้าน ปัจจุบันผู้ป่วยโรคตับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บทความนี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับอาการโรคตับ รู้จักสัญญาณเตือน วิธีรักษาโรคตับ วิธีรับมือ เพื่อดูแลตับให้แข็งแรง
อาการโรคตับ
โรคตับในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ หรือมีอาการไม่ชัดเจน หลายคนจึงไม่รู้ตัว แต่เราอย่าชะล่าใจ หมั่นสังเกตอาการเหล่านี้อยู่เรื่อย ๆ นะคะ ได้แก่
- เหนื่อยง่าย เพลีย โดยไม่มีสาเหตุ
- คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
- ปวดหรือแน่นบริเวณชายโครงขวา
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- ท้องโต หรือบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีอาการสับสน หลงลืม หรือหมดสติ (ในกรณีตับอักเสบเรื้อรังหรือตับแข็ง)
ถ้าเริ่มมีอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตับ จะช่วยให้วินิจฉัยได้ไวและเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงทีค่ะ
โรคตับหายขาดได้ไหม?
นี่เป็นคำถามที่หลายคนต้องการทราบ ซึ่งคำตอบขึ้นอยู่กับว่า "โรคตับที่เป็นนั้นคือชนิดใด" เพราะโรคตับแต่ละชนิดมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน อีกทั้งผลการรักษาก็ไม่เหมือนกันค่ะ ลองมาดูภาพรวมกันว่า โรคตับแบบไหนหายขาดได้ และแบบไหนที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง
- ตับอักเสบเฉียบพลัน
มักเกิดจากเชื้อไวรัสหรือสารพิษบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ หรือยาบางประเภท หากได้รับการวินิจฉัยเร็วและรักษาอย่างถูกต้อง ส่วนใหญ่สามารถหายขาดได้ และตับจะกลับมาทำงานได้ปกติอีกครั้ง - ตับอักเสบเรื้อรัง
เช่น ไวรัสตับอักเสบ B หรือ C ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมเชื้อไวรัสในร่างกายให้ไม่ลุกลาม ในบางรายที่รักษาอย่างสม่ำเสมอและตอบสนองดี อาจสามารถควบคุมไวรัสได้ - ไขมันพอกตับ
หากยังอยู่ในระยะเริ่มต้น และยังไม่มีพังผืดในตับ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร สามารถช่วยให้ตับกลับมาแข็งแรงได้ - ตับแข็ง
เป็นภาวะที่เนื้อตับถูกทำลายไปแล้ว และเกิดพังผืดถาวร ซึ่งไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิมได้ แต่ยังสามารถชะลอความเสื่อม และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ หากดูแลอย่างใกล้ชิด
ดังนั้น...การรู้เร็ว และเริ่มดูแลตับตั้งแต่ระยะเริ่มต้น คือหัวใจสำคัญของวิธีรักษาโรคตับค่ะ
พฤติกรรมแบบไหนที่ช่วยให้โรคตับดีขึ้น?
เมื่อรู้ตัวว่าเป็นโรคตับ หลายคนอาจรู้สึกวิตกกังวลไปก่อนว่า จะรักษาให้หายไหม หรือ จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติหรือเปล่า? แม้บางชนิดของโรคตับจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ด้วยพฤติกรรมที่เหมาะสมในชีวิตประจำวัน ก็สามารถช่วยชะลอการเสื่อมของตับ ลดภาวะแทรกซ้อนได้ค่ะ
- งดแอลกอฮอล์ 100% โดยไม่มีข้อยกเว้น
หากยังมีการดื่มแอลกอฮอล์อยู่ แม้เพียงเล็กน้อย ก็จะยิ่งไปทำร้ายเซลล์ตับเพิ่ม ให้เปรียบเทียบแอลกอฮอล์ เป็นสารพิษหลักที่ต้องผ่านตับเพื่อกำจัดออก และในขณะที่ตับอ่อนแออยู่ การดื่มเข้าไปอีกจะทำให้การอักเสบรุนแรงขึ้น จนอาจกลายเป็น ตับแข็ง หรือมะเร็งตับได้ในที่สุด - นอนหลับให้พอ เพื่อให้ตับได้ซ่อมแซมตัวเอง
การนอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือเข้านอนผิดเวลา จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่รบกวนระบบเผาผลาญ เสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับ และทำให้การฟื้นตัวของเซลล์ตับแย่ลง
แนะนำให้นอนวันละ 68 ชั่วโมงต่อเนื่อง พยายามเข้านอนให้ตรงเวลา และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรือทำกิจกรรมกระตุ้นสมองก่อนนอน - ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม (แม้แค่นิดเดียวก็ช่วยได้)
สำหรับผู้ป่วยโรคตับที่ยังพอมีแรง อาจเริ่มด้วยกิจกรรมเบา ๆ เช่น:
- เดินเร็ววันละ 2030 นาที
- ปั่นจักรยานอยู่กับที่
- โยคะยืดกล้ามเนื้อ
การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยลดไขมันในตับ เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดอาการอักเสบในร่างกาย และยังช่วยให้นอนหลับดีขึ้นอีกด้วย
อาหารที่ตับชอบ: เปลี่ยนมื้ออาหารให้เป็นยารักษา

"อาหาร" คือส่วนสำคัญของการดูแลตับแบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งยาในหลายกรณี โดยการเลือกอาหารที่เหมาะสมก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีรักษาโรคตับ แบบพื้นฐานที่สุดที่ใครๆก็เริ่มทำได้ค่ะ เช่น
- ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ขนมปังโฮลวีต
- ผักใบเขียว บรอกโคลี ฟักทอง
- ปลา ไข่ขาว เต้าหู้
- ผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง
- น้ำเปล่า หรือชาเขียวไม่หวาน
ในขณะเดียวกันก็ควร หลีกเลี่ยงของทอด แอลกอฮอล์ อาหารมันจัด และหวานจัด เพราะสิ่งเหล่านี้อาจะทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับจนเกิดตับอักเสบหากรับประทานมากเกินไป
รักษาโรคตับอย่างไร? เมื่อถึงเวลาต้องพึ่งแพทย์เฉพาะทาง

ถ้าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับแล้ว การติดตามอาการและรับวิธีรักษาโรคตับจากแพทย์เฉพาะทางด้านตับและระบบทางเดินอาหาร จะช่วยให้การรักษาได้ผลดีขึ้นอย่างมาก
การรักษาที่แพทย์อาจแนะนำ ได้แก่:
- Fibroscan เพื่อตรวจพังผืดหรือไขมันพอกตับ
- อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง ดูขนาดตับและความผิดปกติภายใน
- ให้ยาเฉพาะโรค เช่น ยาต้านไวรัส, ยาปรับค่าตับ
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ A และ B
- ตรวจส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร หากมีความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
- และในบางราย อาจพิจารณา ปลูกถ่ายตับ
ที่ พร้อมแพทย์คลินิก สุราษฎร์ธานี เรามีแผนกเฉพาะทางด้านตับและระบบทางเดินอาหาร ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้บริการตรวจ วินิจฉัย และรักษาโรคตับอย่างครบวงจร สามารถเข้ามารับบริการและวินิจฉัยได้ ตามรายละเอียด ดังนี้ค่ะ
วัน-เวลาทำการ : จันทร์ ศุกร์ เวลา 17.00 19.30 น. และเสาร์ อาทิตย์ เวลา 08.30 12.00 น.
สถานที่ : 4/49 หมู่ที่ 2 ถ.ศรีวิชัย 39 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000 (ตรงข้ามตลาดศรีราชา)
โทร : 069-645-5565 หรือ 091-461-9130


