เช็ควิธีรักษากรดไหลย้อนให้หายขาด ควรปรับพฤติกรรมการกินอย่างไร
หากคุณมีพฤติกรรมทานอาหารไม่ตรงเวลา หรือทานอาหารแล้วเข้านอนทันที ร่วมกับมีอาการ "จุกคอ แน่นหน้าอก" ตอนเช้ารู้สึกแสบคอคล้ายคออักเสบ...คุณอาจกำลังเป็นโรคกรดไหลย้อน ซึ่งโรคนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน แต่ยังส่งผลต่อการนอนหลับ การรับประทานอาหาร และสภาพอารมณ์อีกด้วย
โรคกรดไหลย้อน...พบบ่อยในกลุ่มใดมากที่สุด?
อ้างอิงจากข้อมูลของกรมการแพทย์ และงานวิจัยของสถาบันในประเทศไทย พบว่า โรคกรดไหลย้อนพบได้มากในกลุ่มคนอายุ 30-50 ปี โดยเฉพาะคนเมืองและคนทำงานที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น
- รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
- เครียดสะสม
- ดื่มกาแฟหรือชาเป็นประจำ
- นอนทันทีหลังรับประทานอาหารมื้อเย็น
โรคกรดไหลย้อน รักษาให้หายขาดได้หรือไม่?
หากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้อง มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็สามารถหายขาดได้
โรคกรดไหลย้อน (GERD: Gastroesophageal Reflux Disease) คือ โรคที่มีอาการซึ่งเกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นไปในหลอดอาหารส่วนบนอย่างผิดปกติ โรคนี้ทำให้เกิดอาการระคายเคืองจากกรด เช่น อาจทำให้เกิดหลอดอาหารอักเสบและมีแผล หรือถ้ากรดไหลย้อนขึ้นมาเหนือกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนบน อาจทำให้เกิดอาการนอกหลอดอาหาร เช่น อาการทางปอด ทางคอและกล่องเสียง
อาการของกรดไหลย้อน
แบ่งอาการเป็นอาการในหลอดอาหารและอาการนอกหลอดอาหาร
อาการในหลอดอาหาร (พบได้บ่อยกว่า) ได้แก่
- แสบร้อนกลางอก
- จุกแน่นอยู่ในหน้าอก
- เรอเปรี้ยว
- รู้สึกเหมือนมีรสขม หรือรสเปรี้ยว ในคอหรือปาก
อาการนอกหลอดอาหาร (พบได้ไม่บ่อย) ได้แก่
- รู้สึกแน่นคอคล้ายมีก้อนอยู่ในคอ
- เจ็บ/แสบคอ โดยเฉพาะในตอนเช้า
- ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหารหรือขณะนอน
- เสียงแหบเรื้อรัง หรือ กล่องเสียงอักเสบ
- อาการหอบหืดแย่ลง หรือไม่ดีขึ้นจากการใช้ยา
- เป็นโรคปอดอักเสบ เป็นๆ หายๆ ผู้ป่วยบางคนอาจตรวจเอกซเรย์พบพังผืดในปอดได้
- เจ็บหรือแน่นหน้าอกซึ่งเป็นอาการคล้ายโรคหัวใจ
- มีฟันกร่อนสึก
แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม เพราะอาจมีโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคกรดไหลย้อนได้
- อาเจียนเป็นเลือด
- น้ำหนักลดลงโดยไม่มีสาเหตุ
- เบื่ออาหาร
- กลืนเจ็บ กลืนติด กลืนลำบาก
- ถ่ายเป็นเลือด
วิธีรักษากรดไหลย้อน และวิธีป้องกัน
สาเหตุหลักของโรคกรดไหลย้อน ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง ต่อไปนี้เป็นวิธีรักษากรดไหลย้อนที่จะช่วยให้อาการกรดไหลย้อนดีขึ้น
- ปรับพฤติกรรมการกิน
แนะนำให้แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆ วันละ 4-5 มื้อ ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพื่อลดการทำงานของกระเพาะอาหาร และเลี่ยงของมัน อาหารรสเผ็ด รสจัด รวมถึงน้ำอัดลม เหล้า เบียร์ กาแฟ ชา - ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
เลี่ยงพฤติกรรมกินแล้วนอน หลังทานอาหารเสร็จอย่าทิ้งตัวลงนอนทันที ต้องเว้นอย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้ร่างกายย่อยอาหารให้หมดเสียก่อน ถ้าอยากพักผ่อน แนะนำยกหัวเตียงให้สูงขึ้นประมาณ 6-8 นิ้ว เพื่อลดการไหลย้อนของกรด
ผ่อนคลายความเครียด เนื่องจากความเครียดส่งผลให้กระเพาะอาหาร หลั่งกรดออกมามากเกินไป จนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคกรดไหลย้อน
ลดน้ำหนัก เนื่องจากคนอ้วนมีความดันในช่องท้องมากกว่าคนทั่วไป ทำให้เกิดความดันในกระเพาะอาหารสูงขึ้น จนทำให้เกิดกรดไหลย้อนเพิ่มขึ้น - การใช้ยา
ถ้าปรับพฤติกรรมแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หมออาจจะให้ยา เช่น ยาลดกรด , ยาเคลือบหลอดอาหาร , ยาเพิ่มการบีบตัวของหลอดอาหาร
สรุปวิธีรักษากรดไหลย้อน : การใช้ยาร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่กล่าวมาข้างต้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาโรคกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อน หากเป็นเรื้อรัง กรดที่ไหลย้อนมาบริเวณหลอดอาหาร อาจทำให้เกิด หลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง และอาจนำไปสู่โรคมะเร็งหลอดอาหารได้ในอนาคตได้
สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางโรคระบบทางเดินอาหารและตับที่ พร้อมแพทย์คลินิก นอกจากนี้เรายังมีบริการ ตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง และตรวจสุขภาพโดยแพทย์ประจำ พร้อมแพทย์คลินิกพร้อมดูแลคุณทุกวัน
- จันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.00 - 19.30 น.
- เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 08.30 - 12.00 น.
ที่อยู่ : 54/49 หมู่ที่ 2 ถ.ศรีวิชัย 39 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000 (ตรงข้ามตลาดศรีราชา)
โทร: 069-645-5565 หรือ 091-461-9130